พูดถึงหลักการพื้นฐานของการประกันภัย ผู้อ่านทุกท่านจะทราบว่านั่นคือการเฉลี่ยความเสี่ยงหรือการเฉลี่ยความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นนั่นเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายในการคุ้มครองความเสี่ยงของแต่ละเหตุการณ์นั้นมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโอกาสในการเกิดและความเสียหายเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อวิเคราะห์สถิติการเคลมสินไหมทดแทนจะพบว่า สินไหมดังกล่าวเกิดจากคนส่วนน้อยเท่านั้นแต่กลับมีอัตราความเสียหายค่อนข้างสูง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการคุ้มครองหรือเบี้ยประกันโดยรวมที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายสูงขึ้น อย่างกรณีของประกันภัยรถยนต์ พบว่า จากผู้เอาประกันภัยจำนวน 100 ราย จะมีผู้เอาประกันประมาณ 10 ราย ซึ่งเป็นผู้ขับรถโดยประมาท (มีการเคลมสินไหมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งติดต่อกัน) และความเสียหายเฉลี่ยที่เกิดขึ้นคิดเป็น 3 เท่าของเบี้ยประกันภัย ส่งผลให้ผู้เอาประกันที่ขับรถดีต้องแบกรับค่าเบี้ยประกันรถยนต์แพงกว่าที่ควรจะเป็นถึง 30%

ดังนั้นหากเราสามารถแยกกลุ่มคนที่มีแนวโน้มเสี่ยงหรือมีพฤติกรรมไม่ดีออกจากผู้เอาประกันทั้งหมดได้ ก็จะสามารถลดโอกาสในการเคลมค่าเสียหายลง  ซึ่งจะช่วยให้เบี้ยประกันเพื่อความคุ้มครองกลุ่มผู้เอาประกันที่มีพฤติกรรมดีลดลงตามไปด้วย

ทว่าการจะแยกกลุ่มเสี่ยงอย่างคนขับรถประมาทออกมาและสร้างกลุ่มผู้ขับรถดีขึ้นมานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว รวมถึงข้อมูลที่มากขึ้น และเครื่องมือสื่อสาร ที่เรียกได้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันในยุคปัจจุบัน ทำให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มคนที่มีความชอบเหมือนกัน พฤติกรรมคล้ายกัน มารวมอยู่ด้วยกัน ผ่าน Social network ทำให้การสร้างกลุ่มคนขับรถดีไม่ยากอีกต่อไป



Carpool ประกันรถยนต์แนวใหม่

Carpool มองเห็นโอกาสข้างต้น จึงได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์รูปแบบใหม่ ที่ผู้เอาประกันสามารถเลือกกลุ่มคนมาร่วมแชร์ความเสี่ยงจากการขับรถได้ โดยกลุ่มผู้ขับรถดีจะได้เงินคืนสูงสุดถึง 30% ของเบี้ยประกัน และยังได้รับส่วนลดประวัติดีอีก 20-50% ของเบี้ยประกัน รวมถึงความคุ้มครองเพิ่มเติมเป็นพิเศษ

มาถึงตรงนี้ผู้อ่านคงเริ่มสนใจกันแล้วว่า Carpool ทำงานอย่างไรถึงสามารถสร้างกลุ่มคนขับรถดีและมีคืนเงินได้



How it works!

เมื่อคุณซื้อกรมธรรม์จาก Carpool  ทางบริษัทจะกันเงินส่วนหนึ่งที่เรียกว่า Carpool Bonus เอาไว้ 30% ของเบี้ยประกันภัยสุทธิที่ชำระ เช่น หากคุณจ่ายเบี้ยประกันภัยสุทธิ 10,000 บาท  บริษัทจะกันเงิน Carpool bonus ไว้จำนวน 3,000 บาท

หลังจากที่สมัครทำประกันแล้ว คุณจะสามารถเลือกเข้ากลุ่ม หรือตั้งกลุ่มส่วนบุคคลของตนเองผ่านช่องทาง Web application โดยที่คุณสามารถชักชวนเพื่อนผ่านทาง Facebook Line หรือช่องทางอื่นได้ นอกจากนี้แล้วเพื่อให้คุณสามารถคัดเลือกเพื่อนที่ขับรถดีเข้ามาอยู่ในกลุ่ม คุณสามารถตั้งเงื่อนไขของกลุ่มได้ เช่น เพศ อายุ รุ่นรถ คุณสมบัติ เป็นต้น  ทั้งนี้สมาชิกแต่ละรายไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมในเวลาเดียวกัน เพียงแต่จำเป็นต้องมีจำนวนสมาชิก 5 คน หรือมากกว่า เพื่อที่จะมีสิทธิ์ได้รับ Carpool bonus เมื่อสิ้นปีกรมธรรม์

หลังจากที่คุณสร้างหรือเข้ากลุ่มเรียบร้อยแล้ว Carpool bonus ของคุณจะถูกนำไปรวมกับสมาชิกคนอื่นๆ ในกลุ่ม ตัวอย่าง

คนขับ 1 (คุณ) = 3,000 บาท

คนขับ 2 = 3,500 บาท

คนขับ 3 = 3,500 บาท

คนขับ 4 = 3,000 บาท

คนขับ 5 = 3,000 บาท

Carpool bonus ของกลุ่ม = 16,000 บาท

ในกรณีที่ไม่มีการเคลมเกิดขึ้นภายในรอบปีกรมธรรม์เลย คุณจะได้รวมเงินคืนเท่ากับ Carpool bonus หรือ 3,000 บาท

แต่หากสมาชิกในกลุ่มเกิดอุบัติเหตุและมีการเคลมเกิดขึ้น  ค่าเคลมจะหักจาก Carpool bonus ของสมาชิกทุกคนในกลุ่ม ณ เวลาที่เกิดเคลม ตามสัดส่วน เช่น หากสมาชิกมีเคลมจำนวน 4,000 บาท Carpool bonus ของกลุ่มจะเหลือ 12,000 บาท (16,000 – 4,000) ค่าเคลมจะถูกหักจากสมาชิกแต่ละคน ซึ่งคิดจากสัดส่วนของเบี้ยประกันสุทธิที่จ่ายเทียบกับทั้งกลุ่ม

คนขับ 1 (คุณ)  3,000 – 750 = 2,250 บาท

คนขับ 2 3,500 – 875 = 2,625 บาท

คนขับ 3  3,500 – 875 = 2,625 บาท

คนขับ 4 3,000 – 750 = 2,250 บาท

คนขับ 5 3,000 – 750 = 2,250 บาท

Carpool bonus ของกลุ่ม 16,000 – 4,000 = 12,000 บาท

หลังจากนั้นหากภายในปีกรมธรรม์ไม่มีการเคลมเพิ่มเติม คุณจะได้รับเงินคืนจำนวน 2,250 บาท แต่หากมีการเคลมในจำนวนที่เกินกว่า 12,000 บาท หรือสูงกว่า Carpool bonus ของกลุ่ม ทางบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบส่วนต่างนั้นให้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องชำระเงินเพิ่มเติมใดๆ

ทั้งนี้เมื่อครบหนึ่งปี หากสมาชิกในกลุ่มมีพฤติการขับรถที่ไม่ดีการเคลมเป็นประจำ คุณสามารถเปลี่ยนกลุ่มที่ตนเองอยู่ได้

เปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ประกันรูปแบบอื่น



จากรูปแบบประกันขับดีมีเงินคืนของ Carpool มีความน่าสนใจอย่างมากเมื่อเทียบกับการทำประกันรถยนต์แบบปกติ เพราะนอกจากจะช่วยคัดกรองคนขับรถให้กับบริษัทประกันภัยซึ่งเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้กับผู้ที่ขับรถไม่ดี และนำเงินบางส่วนกลับคืนให้ผู้เอาประกันที่ขับรถดีแล้ว การสร้างกลุ่มคนขับรถดียังช่วยลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินบนท้องถนน และสร้างคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอีกด้วย



อย่างไรก็ตามผู้เอาประกันควรพิจารณาแบบประกันที่เหมาะสมกับตนด้วย เพราะปัจจุบันมีประกันแบบใหม่มากขึ้น เช่น ประกันแบบจ่ายเมื่อใช้ (Pay per use :PPU) คือจะใช้เมื่อไรก็สามารถเปิดใช้ความคุ้มครองได้ หรือจ่ายตามระยะทาง (Pay per mile : PPM) ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่ใช้รถน้อย ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายค่าประกันมากเกินที่ใช้ เป็นต้น



แนวโน้มในอนาคต

การเกิดขึ้นของ Social network การเข้าถึงเครื่องมือสื่อสาร การพัฒนาแอพพลิเคชั่นรูปแบบใหม่ และวิถีการบริโภคแบบแบ่งปัน (Sharing economy) ทำให้การใช้ชีวิตของคนเราเปลี่ยนแปลงไป ความเสี่ยงบางอย่างที่เคยมีอาจจะลดลงไป แต่มีความเสี่ยงใหม่ๆเกิดขึ้น บริษัทประกันเองก็ทราบถึงความต้องการที่เปลี่ยนไปนี้ และพยายามเข้าถึงข้อมูลทั้งผ่านทาง Smart device รวมถึง Social network ของลูกค้า เพื่อให้สามารถคาดการณ์ความต้องการความคุ้มครองของบุคคล ช่วยให้สามารถนำเสนอ ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าเป้าหมายได้อย่างรวมเร็ว ตรงจุดและเฉพาะกลุ่มมากขึ้น

ข้อมูล: https://www.th.carpool.co.th