ซึ่งเกี่ยวข้องกับการซื้อ LTF และ RMF
มีการเปลี่ยนกฏเกณฑ์จากเดิม
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการคำนวณสิทธิในการซื้อ LTF และ RMF เพื่อลดหย่อนภาษี
กฏเกณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงไป คือการระบุข้อความว่า
สามารถใช้สิทธิซื้อ LTF และ RMF โดยคำนวณจาก
"เงินได้พึงประเมินที่ได้รับซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้ในแต่ละปี"
หลายท่านอาจจะสงสัยกับข้อความในประกาศ
ว่ามันจะกระทบกับกรณีไหน
เพราะทุกวันนี้ก็ยื่นภาษีปกติ
เงินได้พึงประเมินก็ใช้ในการคำนวณภาษีเงินได้อยู่แล้ว
กรณีที่มีผลกระทบ เท่าที่เห็นได้ชัดคือ
มีเงินได้พึงประเมินบางอย่างที่เป็น "เงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษี"
แต่ต้องยื่นในแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานะครับ
เช่น ส่วนต่างกำไรของหน่วยลงทุนจากกองทุน
เวลาที่ท่านขายหน่วยลงทุนออกมาแล้วมีกำไร
เป็นเงินได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษี
แต่ต้องยื่นแบบ ภงด.90 เป็นเงินได้พึงประเมินในมาตรา 40(8)
(รวมไปถึงกองทุน LTF RMF ส่วนที่มีการขายออกมาตรงตามกฏเกณฑ์และมีกำไรจากมูลค่าหน่วยลงทุน)
ที่ผ่านมา เมื่อมีการยื่นเป็นเงินได้พึงประเมินใน ภงด.90
แต่เงินได้ส่วนนี้ไม่ถูกรวมในการคำนวณภาษี
แต่ผู้เสียภาษีมีการนำไปคิดเป็นฐานในการคำนวณการซื้อกองทุน LTF และ RMF
ทำให้สามารถซื้อ LTF และ RMF ได้มากขึ้นจากเงินได้พึงประเมินที่ใช้ในการคำนวณภาษีจริงๆ
ตัวอย่างเช่น กรณีซื้อ LTF
เงินได้จากเงินเดือน 1,000,000 บาท
ส่วนต่างกำไรจากมูลค่าหน่วยลงทุน 500,000 บาท
เงินได้พึงประเมินที่หักค่าใช้จ่าย หักค่าลดหย่อน แล้วนำไปคำนวณภาษีตามอัตราก้าวหน้าคือส่วน 1,000,000 บาทเท่านั้น
เพราะส่วนต่างกำไรจากกองทุน 500,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี
แต่มีเวลาคำนวณสิทธิในการซื้อ LTF
กลับคำนวณจากเงินได้พึงประเมิน 1,500,000 บาท
ซื้อ LTF ไม่เกิน 15% คือ 225,000 บาท
การแก้ไขนี้ จึงเป็นการทำเพื่อไม่ให้นำเงินได้พึงประเมินในส่วนที่ได้รับการยกเว้นภาษี แต่มีการยื่นใน ภงด.90
มารวมเป็นฐานในการคำนวณสิทธิในการซื้อกองทุน LTF และ RMF เพื่อนำไปลดหย่อนภาษี
จากกรณีตัวอย่าง จะทำให้การคำนวณสิทธิในการซื้อ LTF
จะคำนวณจากเงินได้พึงประเมิน 1,000,000 บาท
ซื้อ LTF ไม่เกิน 15% คือ 150,000 บาท
ทำให้สิทธิการซื้อ LTF และ RMF เพื่อลดหย่อนภาษีจะลดน้อยลงจากวิธีที่ผู้เสียภาษีใช้ในการคำนวณสิทธิซื้อ LTF และ RMF ที่ผ่านๆมาครับ